เกร็ดความรู้


03
ม.ค.

ปรับวิธีขับ ประหยัดทันที


1. ลดน้ำหนักบรรทุกให้ได้มากที่สุด

น้ำหนัก 25 กก. วิ่งระยะทาง 100 กม. ใช้น้ำมันไป 120 ซี.ซี. เท่ากับระยะ 1.2 กม.

น้ำหนัก 50 กก. วิ่งระยะทาง 100 กม. ใช้น้ำมันไป 240 ซี.ซี. เท่ากับระยะ 2.4 กม.

น้ำหนัก 100 กก. วิ่งระยะทาง 100 กม. ใช้น้ำมันไป 480 ซี.ซี. เท่ากับระยะ 4.8 กม.

น้ำหนัก 100 กก. วิ่งระยะทาง 800 กม. ใช้น้ำมันไป 3,840 ซี.ซี. เท่ากับระยะ 38.4 กม.

2.
ลมยางเหมาะสม ลมยางอ่อน 3 ปอนด์ ยางหนึดทำให้กินน้ำมันเพิ่ม 1-2%

3.
หมั่นเช็คเครื่อง/เช็ครถ ทุกๆ 1,000 กม. ประหยัดได้ 5 ลิตร

4.
หากหยุดเกิน 15 วินาที ให้ดับเครื่องทันที

หากยังติดเครื่องไว้ทุกๆ 3 นาที ใช้น้ำมันไป 100 ซี.ซี. เท่ากับระยะทาง 1 กม.

5.
เปลี่ยนเกียร์สูงทันทีเมื่อเครื่องยนต์ทำงานถึง 2,500 รอบ/นาที

6.
หลีกเลี่ยงการเบรคอย่างรุนแรง "เบรคบ่อย ปล่อยคลัทช์-คันเร่งช้า ระยะทางหาย"

"
การปล่อยไหล ประหยัดกว่าปลดเกียร์ว่าง"

7.
ใช้ความเร็วคงที่ 90 กม./ชม. หรือที่ 1,800 รอบ/นาที จะประหยัดและได้ประโยชน์สูงสุด

หากใช้ความเร็วที่ 110 กม./ชม. จะทำให้กินน้ำมันมากกว่า 25%

8.
เปิดแอร์ตลอดทำให้กินน้ำมันอีก 10%

9.
รถเกียร์อัตโนมัติกินน้ำมันกว่าเกียร์ธรรมดา 10%

10.
น้ำมันเครื่องแพงดีๆ ช่วยการประหยัดได้ 5-10%



เทคนิคการขับรถแบบประหยัดน้ำมัน

1.
เลือกใช้รถให้เหมาะกับสภาพการใช้งาน อันนี้ในกรณีที่ ถ้าที่บ้านของคุณมีรถยนต์ให้เลือกใช้มากกว่า 1 คัน  

2.
อย่าได้พยายามคิดประหยัด โดยใช้วิธีเข้าไปนั่งเบียดเสียด แบบจับคนทั้งบ้านยัดเข้าไปเหมือนอัดปลากระป๋อง เพราะการทำเช่นนั้น นอกจากจะทำให้รถคันดังกล่าวต้องแบกรับน้ำหนักเกินภาระของเครื่องยนต์แล้ว ยังทำให้สิ้นเปลืองการใช้เชื้อเพลิงมากกว่าปกติ และเกิดการสึกหรอเร็วกว่าเดิมอีกด้วย

3.
ควรเติมน้ำมันตามชนิดที่คุ่มือการใช้รถแนะนำ  

        
4.
เป็นไปได้ควรขับช้า ๆ และวิ่งชิดเลนซ้าย รวมทั้งใช้ความเร็วคงที่สม่ำเสมอ เช่นขับที่ประมาณความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. จะช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้ประมาณ 15-20% เลยทีเดียว

5.
เลี่ยงการแตะเบรกอย่างรุนแรง การเหยียบเบรกแต่ละครั้งควรทำด้วยสัมผัสที่นิ่มนวล เพราะการขับรถอย่างกระโชกโฮกฮากมักทำให้ต้องแตะเบรกอย่างรุนแรงตามมา นอกจากเสี่ยงอันตราย ยังทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้นอีกถึง 25%

6.
รถที่มีแอร์ควรเปิดแอร์ เชื่อหรือไม่ว่าการปิดแอร์แล้วขับรถไม่ได้มีผลต่อการประหยัดน้ำมันแต่อย่างใด เพราะการจะสิ้นเปลืองน้ำมันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ ประเภทของรถ และการใช้ความเร็วต่างหาก (แต่มียกเว้นไว้นิดนึงว่า ที่ความเร็วไม่เกินประมาณ 65 ไมล์/ชั่วโมง)  

7.
หลีกเลี่ยงเส้นทางรถติด อันนี้เป็นการรู้จักวางแผนที่ดีก่อนการออกเดินทางด้วย

8.
เวลาเติมน้ำมัน ไม่ควรบอกเด็กปั๊มว่า เต็มถัง แต่ควรจะประมาณเป็นจำนวนเงินที่เกือบจะเต็มถังจะดีกว่า เนื่องจากทุกครั้งที่เติมน้ำมันเต็มถัง นอกจากลิ้นหัวจ่ายน้ำมันจะถูกตัวเซ็นเซอร์สั่งปิดโดยอัตโนมัติ ยังมีการส่งน้ำมันที่ค้างในหัวจ่ายส่วนหนึ่ง ซึ่งผ่านการคิดเงินจากมิเตอร์แล้ว ย้อนกลับไปยังตัวปั๊มจ่าย ดังนั้นส่วนที่ค้างอยู่ในท่อจ่าย และถูกคิดเงินแล้ว จะถูกส่งคืนให้แก่ผู้ขาย


  
เกร็ดเล็ก เกร็ดน้อย หากเราทำได้ซัก 3 – 4 ข้อนอกจากจะสบายใจเรื่องมีส่วนช่วยประหยัดน้ำมันรถของเราแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกนะครับ.



บทความ อย่าขับอย่างเดียว ความรู้เรื่องรถยนต์ ทั้งหมด

www.thailandmazda2.com/index.