ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)
บริษัท ไทยพาณิชย์พลัส จำกัด


     บริษัท ไทยพาณิชย์พลัส จำกัด (“บริษัท”) ใส่ใจในความเป็นส่วนตัวของลูกค้าบริษัท จึงจัดให้มีประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เพื่อลูกค้าบริษัทได้รับทราบถึงนโยบายของบริษัทเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลธรรมดา (“ท่าน”) ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (“พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) กฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ประเภทข้อมูล และวัตถุประสงค์ในการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก สิทธิของท่าน การรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และวิธีการที่ท่านสามารถติดต่อบริษัท

      ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ใช้สำหรับบุคคลดังต่อไปนี้
     (1)    ลูกค้าของบริษัท
            •    ลูกค้าบุคคลธรรมดา: ลูกค้าเดิมและลูกค้าปัจจุบันของบริษัท ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา
            •    ลูกค้าองค์กรธุรกิจ: กรรมการ ผู้ถือหุ้น ผู้รับประโยชน์ที่แท้จริง พนักงาน บุคคลผู้ติดต่อ
               ผู้ค้ำประกัน ผู้ให้หลักประกัน และผู้แทนโดยชอบด้วยกฎหมายของลูกค้าองค์กรธุรกิจเดิมและ
               ปัจจุบัน รวมถึงบุคคลธรรมดาอื่นที่มีอำนาจในการกระทำการแทนลูกค้าองค์กรธุรกิจ ทั้งนี้ บริษัท
               ขอแนะนำให้ลูกค้าองค์กรธุรกิจของบริษัทดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลผู้มีอำนาจกระทำการ
               แทนหรือบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องใด ๆ รับทราบถึงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท
     (2)    บุคคลที่ไม่ใช่ลูกค้าของบริษัท
               บุคคลดังกล่าวรวมถึงบุคคลธรรมดาที่ไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการกับบริษัท แต่บริษัทอาจมีความจำเป็นต้อง
               เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (เช่น บุคคลที่ได้ชำระเงินหรือโอนเงินให้แก่หรือ
               รับเงินจากลูกค้าของบริษัท ผู้ค้ำประกันหรือผู้ให้หลักประกัน ผู้รับผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัย
               ผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง กรรมการหรือผู้แทนโดยชอบด้วยกฎหมายของนิติบุคคลที่ใช้บริการของบริษัท
               ลูกหนี้ของลูกค้าของบริษัทหรือของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (“ธนาคาร”) ที่ปรึกษาด้านวิชาชีพ
               บุคคลผู้ติดต่อ รวมถึงกรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัท และตัวแทนโดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคล
               ดังกล่าว และบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมกับบริษัทหรือลูกค้าของบริษัท)

1. บริษัทเก็บรวบรวมและนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้หรือเปิดเผยอย่างไร
    บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะกรณีที่จำเป็นหรือมีฐานทางกฎหมายในการ
    เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น ซึ่งรวมถึงกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วน
    บุคคลเพื่อการดำเนินการตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย การปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัท
    เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท การดำเนินการตามความยินยอมของท่าน และ/หรือ ภายใต้ฐาน
    ทางกฎหมายอื่น ๆ โดยวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของบริษัท ดังต่อไปนี้

1.1. ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท
    เนื่องจากบริษัทอยู่ภายใต้การกำกับดูแล และต้องดำเนินการตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
    บริษัทจึงมีความจำเป็นจะต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์
    ต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบของหน่วยงานรัฐ และ/หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับ
    ดูแลบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
    ก)    เพื่อปฏิบัติตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม
    ข)    เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย (เช่น กฎหมายธุรกิจสถาบันการเงิน กฎหมายป้องกันและปราบปรามการ
    ฟอกเงิน กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและ
    การแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง กฎหมายประกันชีวิตและประกันวินาศภัย และ
    กฎหมายอื่นที่บริษัทต้องปฏิบัติตาม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ) ซึ่งรวมถึงการดำเนินการ
    ตรวจสอบยืนยันตัวตน การตรวจสอบประวัติ การตรวจสอบเครดิต การทำความรู้จักลูกค้า (Know
    Your Customer) การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence)
    และการตรวจสอบอื่น ๆ (รวมถึงการตรวจสอบจากฐานข้อมูลสาธารณะของหน่วยงานกำกับดูแล
    และ/หรือ ข้อมูลบุคคลที่ถูกกำหนด) และการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย
    ใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง และ/หรือ
    ค)    เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบ และ/หรือ คำสั่งของผู้มีอำนาจ (เช่น คำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ
    หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ)

1.2. สัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัท
    บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามคำขอ และ/หรือ ข้อตกลงที่ท่านได้ทำไว้
    กับบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
    ก)    ดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญากับบริษัท การพิจารณาอนุมัติ และ
    การให้บริการแก่ท่าน และการให้คำแนะนำและการจัดการเกี่ยวกับบริการ ซึ่งรวมถึงการดำเนินการ
    ใด ๆ ของบริษัท ซึ่งหากไม่ได้ดำเนินการแล้วจะกระทบต่อการดำเนินการหรือการให้บริการของ
    บริษัท หรือจะไม่สามารถให้บริการได้อย่างเป็นธรรมและต่อเนื่อง
    ข)    ยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมใด ๆ
    ค)    ประเมินราคาหลักประกัน และนำหลักประกันออกขายทอดตลาด สำหรับหนี้ที่ค้างชำระแก่ท่าน
    ง)    ตรวจสอบข้อมูลของบุคคลผู้ขอสินเชื่อจากท่านเพื่อพิจารณาว่ามีการประกอบกิจการและมีรายได้
    จริงตามข้อมูลที่แจ้ง
    จ)    ดำเนินการตามคำสั่งของท่าน (เช่น คำร้องขอติดตามทวงถามหนี้ หรือการตอบข้อสงสัยหรือ
    ข้อเสนอแนะของท่าน หรือการดำเนินการแก้ไขตามข้อร้องเรียนของท่าน)
    ฉ)    ติดตาม หรือบันทึกการทำธุรกรรมของท่าน
    ช)    จัดทำรายงานต่าง ๆ (เช่น รายงานการดำเนินการตามที่ท่านร้องขอ หรือรายงานภายในของบริษัท)
    ซ)    เรียกชำระหนี้ที่ค้างชำระอยู่กับท่าน (เช่น ในกรณีที่ลูกหนี้ของท่านยังไม่ได้ชำระหนี้สินเชื่อ และ/หรือ
    ค่าธรรมเนียมค้างชำระ)     ฌ)    ดำเนินการหรือเข้าทำธุรกรรม และ/หรือ การชำระหรือรับชำระเงิน (เช่น การดำเนินการชำระเงิน
    หรือทำธุรกรรมใด ๆ เพื่อการรับชำระหนี้ การเรียกเก็บเงิน และการดำเนินการหรือเข้าทำกิจกรรม
    ต่าง ๆ ในการบริหารจัดการความสัมพันธ์ของท่านกับบริษัท และการดำเนินการทางทะเบียน)
    ญ)    การบังคับสิทธิตามกฎหมายหรือตามสัญญาของบริษัท และ/หรือ
    ฎ)    จัดให้มีการสนับสนุนทางทะเบียน IT และ helpdesk สร้างและรักษาไว้ซึ่งรหัสและบัญชีผู้ใช้ของ
    ท่าน จัดการการเข้าถึงระบบใด ๆ ตามที่ท่านได้รับสิทธิในการเข้าถึง และยกเลิกบัญชีที่ไม่มีการใช้งาน

1.3. ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
    บริษัทจะอ้างอิงฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยคำนึงถึงประโยชน์ของบริษัทหรือของบุคคลอื่นกับ
    สิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัด
    เฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
    ก)    บริหารกิจการของบริษัท และของบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเอสซีบี เอกซ์ (เช่น กำกับตรวจสอบ
    บริหารจัดการความเสี่ยง บริหารการเงินและการบัญชี ตรวจสอบบัญชี บริหารจัดการภายในองค์กร
    เฝ้าระวัง ป้องกัน และตรวจสอบการทุจริต การฟอกเงิน การก่อการร้าย การประพฤติโดยมิชอบ
    หรือการก่ออาชญากรรมอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบุคคล
    ใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าองค์กรธุรกิจของบริษัท ซึ่งอาจเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่หรือเจ้าหน้าที่กำกับ
    ดูแลตามกฎหมายไม่ได้กำหนดให้ต้องดำเนินการ ทั้งนี้ รวมถึงการระบุตัวตนของท่านเพื่อป้องกัน
    อาชญากรรมดังกล่าว)
    ข)    บริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและท่าน (เช่น ดูแลลูกค้า ประเมินความพึงพอใจ จัดกลุ่ม
    ลูกค้า จัดการข้อร้องเรียน)
    ค)    รักษาความปลอดภัย (เช่น บันทึกภาพ CCTV ลงทะเบียน แลกบัตร และ/หรือบันทึกภาพ
    ผู้ติดต่อก่อนเข้าบริเวณสถานที่ของบริษัท)
    ง)    พัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบงานต่าง ๆ ของบริษัท เพื่อยกระดับมาตรฐาน
    การให้บริการของบริษัท และ/หรือ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการตอบสนองความต้องการของท่าน
    จ)    บันทึกภาพ และ/หรือ เสียงเกี่ยวกับการจัดประชุม อบรม สัมมนา สันทนาการ หรือกิจกรรมส่งเสริม
    การตลาด การบริการ หรือการประมูลทรัพย์
    ฉ)    กรณีลูกค้าองค์กรธุรกิจของบริษัท บริษัทจะมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ
    กรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน หรือตัวแทน
    ช)    ดำเนินการเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจของบริษัท
    ซ)    จัดการข้อเรียกร้องและข้อพิพาท ฟ้องร้องดำเนินคดีและดำเนินกระบวนการทางกฎหมาย
    ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการดำเนินการบังคับคดีกับลูกหนี้สินเชื่อ ผู้ค้ำประกัน และผู้ให้หลักประกันให้แก่ท่าน
    ฌ)    ติดต่อท่านก่อนที่ท่านจะเข้าทำสัญญากับบริษัท
    ญ)    ป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัย (เช่น การเฝ้าติดตามข้อมูลการใช้เครือข่าย (network
    activity logs) การระบุเหตุการณ์เกี่ยวกับความปลอดภัย (security incidents) การดำเนินการ
    ตรวจสอบเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล และการป้องกันอื่นใดต่อการกระทำที่ประสงค์ร้าย
    หลอกลวง ฉ้อฉล หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย)
    ฎ)    ปฏิบัติตามกฎหมายต่างประเทศที่ใช้บังคับ
    ฏ)    ทำวิจัย วางแผน และทำการวิเคราะห์ทางสถิติ (เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การประเมิน การสอบถาม
    และรายงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการของบริษัทและพฤติกรรมของท่าน)
    ฐ)    จัดโครงการหรือกิจกรรมส่งเสริมการขาย การประชุม สัมมนา และการเยี่ยมชมองค์กรต่าง ๆ
    (company visits)
    ฑ)    อำนวยความสะดวกแก่การตรวจสอบทางบัญชีซึ่งกระทำโดยผู้สอบบัญชี
    ฒ)    รับบริการจากที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาทางการเงิน และ/หรือ ที่ปรึกษาอื่นใด ซึ่งแต่งตั้งโดยท่าน
    หรือบริษัท
    ณ)    ในกรณีที่มีการขาย การโอน การควบกิจการ การฟื้นฟูกิจการ หรือเหตุการณ์ในทำนองเดียวกัน
    บริษัทอาจเปิดเผยและโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกรายใดรายหนึ่งหรือหลาย
    รายซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธุรกรรมนั้น ๆ
    ด)    เก็บรักษาและแก้ไขปรับปรุงรายชื่อและสมุดรายนามของลูกค้าให้เป็นปัจจุบัน (ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วน
    บุคคลของท่าน) และจัดเก็บสัญญาและเอกสารที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจมีการอ้างถึงท่านในเอกสาร
    ดังกล่าว และ/หรือ
    ต)    ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ทางธุรกิจอันสมควร (เช่น การจัดการ การอบรม การตรวจสอบ การรายงาน
    การควบคุมหรือบริหารความเสี่ยง การวิเคราะห์และวางแผนสถิติและแนวโน้มหรือกิจกรรมอื่น
    ที่เกี่ยวข้องหรือคล้ายคลึงกัน การจัดให้มีการควบคุมทางธุรกิจเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้
    และทำให้บริษัทสามารถระบุและแก้ไขปัญหาในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT system) ของ
    บริษัท เพื่อให้มีความปลอดภัย และการพัฒนา จัดให้มี ดำเนินการ และบำรุงรักษาระบบเทคโนโลยี
    สารสนเทศ (IT systems) ของบริษัท)

1.4. ความยินยอมของท่าน
    ในบางกรณี บริษัทอาจมีการขอความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
    ของท่านเพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์สูงสุด และ/หรือ เพื่อให้บริษัทสามารถให้บริการที่ตอบสนองต่อความ
    ต้องการของท่าน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
    ก)    มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (sensitive personal
    data) (เช่น ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน (ซึ่งในบัตรดังกล่าวจะมีข้อมูลส่วนบุคคล
    อ่อนไหวของท่าน ได้แก่ ศาสนา เชื้อชาติ และ/หรือ กรุ๊ปเลือดอยู่) ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของ
    ท่านก่อนการทำธุรกรรมและการดำเนินการทำความรู้จักลูกค้า (Know Your Customer))
    ข)    เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใด ๆ ของท่านไปวิจัยและวิเคราะห์เพื่อประโยชน์
    สูงสุดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของท่านอย่างแท้จริง
    และ/หรือ ติดต่อท่านเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมแก่ท่านโดยเฉพาะ
    ค)    ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (sensitive personal data) ของท่านไป
    ยังต่างประเทศ ซึ่งอาจมีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ (เว้นแต่เป็นกรณีที่
    พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สามารถดำเนินการได้ภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ หรือ
    โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม)
    ง)    กรณีท่านเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจาก
    บิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี) (เว้นแต่เป็นกรณีที่พรบ. คุ้มครอง
    ข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม) และ/หรือ
    จ)    การดำเนินการอื่นที่บริษัทต้องได้รับความยินยอมของท่าน

1.5. ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ
    นอกเหนือไปจากฐานทางกฎหมายข้างต้น บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ
    ท่านภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นดังต่อไปนี้
    ก)   จัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัย
    หรือสถิติ
    ข)   ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
    ค)   เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อการใช้
    อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่

หากข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่านมีความจำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทหรือ
เพื่อการเข้าทำสัญญากับท่าน บริษัทอาจจะไม่สามารถให้บริการ (หรือดำเนินการเพื่อให้บริการต่อไป) ผลิตภัณฑ์
หรือบริการบางส่วนหรือทั้งหมดของบริษัทแก่ท่านได้ หากท่านไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นแก่บริษัทเมื่อบริษัท
ร้องขอ

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
    ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขอบเขตของ
    ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการที่ท่านอาจเคยใช้หรือสนใจ โดยมีทั้งข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปและข้อมูลส่วนบุคคล
    อ่อนไหว ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้

ประเภทข้อมูล ตัวอย่างข้อมูลส่วนบุคคล
รายละเอียดส่วนบุคคล - คำนำหน้าชื่อ
- ชื่อ, ชื่อกลาง, นามสกุล, นามแฝง (หากมี)
- เพศ
- วันเดือนปีเกิด
- อายุ
- การศึกษา
- สถานภาพสมรส
- สัญชาติ
รายละเอียดการติดต่อ - ที่อยู่ติดต่อทางไปรษณีย์
- ที่อยู่อิเล็กทรอนิกส์
- หมายเลขโทรศัพท์
- หมายเลขโทรศัพท์มือถือ
- หมายเลขโทรสาร
- ชื่อของตัวแทนหรือผู้มีอำนาจกระทำการแทนในนามของลูกค้า
- บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ (social media) ซึ่งรวมถึงข้อมูลโปรไฟล์ภาพถ่าย และสิ่งระบุตัวตนอื่นสำหรับการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์
- ที่อยู่สำหรับการติดต่อทางธุรกิจ
- หมายเลขโทรศัพท์สำหรับการติดต่อทางธุรกิจ
- รายละเอียดการติดต่อของบุคคลอ้างอิง
รายละเอียดที่ใช้ในการระบุตัวตนและการยืนยันตัวตน - ภาพถ่าย
- ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน
- เลขประจำตัวประชาชน, เลข laser (ด้านหลังบัตรประจำตัวประชาชน)
- หนังสือเดินทาง
- หนังสือสำคัญ, บัตรประจำตัวคนต่างด้าว
- ใบอนุญาตขับรถ
- ลายมือชื่อ
- หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
- ทะเบียนบ้าน
รายละเอียดการทำงาน - อาชีพ
- รายละเอียดเกี่ยวกับนายจ้างและสถานที่ทำงาน
- ตำแหน่งงาน
- เงินเดือน รายได้ และค่าตอบแทน
รายละเอียดทางการเงินและข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของท่านกับบริษัท และ/หรือ ธนาคาร และ/หรือ ลูกค้าของบริษัท - ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการต่าง ๆ ที่ท่าน และ/หรือ ลูกค้าของธนาคารใช้อยู่ (เช่น ข้อมูลบัญชีเงินฝาก ข้อมูลบัตรเครดิต ข้อมูลสินเชื่อและหลักประกัน)
- ช่องทางและวิธีการที่ท่านปฏิสัมพันธ์กับบริษัท และ/หรือ ธนาคาร และ/หรือ ลูกค้าของบริษัท
- สถานะความเป็นลูกค้าของท่าน ความสามารถของท่านในการได้มาและจัดการสินเชื่อ ประวัติการชำระเงิน บันทึกการทำธุรกรรม สำหรับหนี้สินเชื่อ SME สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ บัตรเครดิต สินเชื่อ Speedy Cash และสินเชื่อ Speedy Loan
- ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมของท่าน
- ข้อมูลบัตรเครดิต และบัตรเดบิต
- เลขที่บัญชี และประเภทบัญชี
- ประวัติบัญชี
- สินทรัพย์หมุนเวียน
- รายรับและรายจ่าย
- รายละเอียดการชำระเงิน
- ข้อมูลทางการเงินของผู้กู้ ผู้กู้ร่วม ผู้ให้หลักประกัน ผู้ค้ำประกัน เจ้าของกรรมสิทธิ์หลักประกัน
- ข้อมูลหลักประกัน (เช่น สำเนาโฉนด เอกสารสิทธิ ราคาประเมินหลักประกัน)
- เอกสารทางการเงิน (เช่น Statement)
- เอกสารนิติกรรม (เช่น โฉนด สัญญากู้ สัญญาจำนอง คำขอสินเชื่อ)
- รายละเอียดของรถยนต์ (เช่น ยี่ห้อ รุ่น ทะเบียนรถยนต์ สี ปีที่ จดทะเบียน)
- ข้อมูลเกี่ยวกับคดี (เช่น จดหมายทวงถามหนี้ เลขคดี สถานะคดีและขั้นตอนการดำเนินการทางกฎหมาย ความคืบหน้า ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการ และแผนการดำเนินการหรือแผนการชำระหนี้ ค่าธรรมเนียมศาล ค่าทนายความ สำนวนคดี วันฟ้อง วันพิพากษา)
ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ของท่าน และรายละเอียดทางเทคนิค - ตำแหน่งจีพีเอสของสถานที่ (ที่อยู่ ที่ทำงาน)
ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบ - ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริง (เช่น ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำความรู้จักลูกค้า (Know Your Customer) การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence))
- ข้อมูลเพื่อการบริหารความเสี่ยง หรือการตรวจสอบการฟอกเงินและต่อต้านการก่อการร้าย
ข้อมูลการเข้าใช้ การขอใช้บริการ และรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้ - ข้อมูลการเข้าใช้ระบบของบริษัท
- ชื่อบัญชีผู้ใช้ รหัสผ่านและรหัสการยืนยันตัวตนอื่น
- ความสนใจ ความต้องการ และกิจกรรมการใช้งาน
ข้อมูลของคู่สมรส - คำนำหน้าชื่อ
- ชื่อ, ชื่อกลาง, นามสกุล, นามแฝง (หากมี)
- สถานภาพสมรส
- จำนวนบุคคลที่อยู่ในความดูแล
- สัญชาติ
- เลขประจำตัวประชาชน
- วันเดือนปีเกิด
- รายได้
ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย - ภาพถ่าย
- ลักษณะรูปพรรณสัณฐานบุคคล
- การตรวจพบข้อสงสัยหรือกิจกรรมที่ผิดปกติ
- ภาพถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
- บันทึกวีดีโอ
ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว - ศาสนา ตามที่ปรากฏบนบัตรประจำตัวประชาชนด
- กรุ๊ปเลือด ตามที่ปรากฏบนบัตรประจำตัวประชาชนด
- เชื้อชาติ ตามที่ปรากฏบนบัตรประจำตัวประชาชน
ข้อมูลอื่น ๆ - บันทึกการโต้ตอบและการสื่อสารระหว่างท่านกับบริษัท และ/หรือ ธนาคาร และ/หรือ ลูกค้าของบริษัท ไม่ว่าจะในรูปแบบหรือวิธีใด ๆ ก็ตาม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง โทรศัพท์ อีเมล ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ (social media)
- ข้อมูลที่ท่านให้ไว้กับบริษัท และ/หรือ ธนาคาร และ/หรือ ลูกค้าของบริษัท ไม่ว่าผ่านช่องทางใด ๆ


3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    โดยทั่วไปแล้วบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง แต่ในบางกรณีบริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วน
    บุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่น ซึ่งบริษัทจะดำเนินการให้เป็นไปตามที่ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กำหนด
    ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากแหล่งอื่น อาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้
    ก)   ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเอสซีบี เอกซ์ พันธมิตรทางธุรกิจ และ/หรือ บุคคลอื่นใด
    ที่บริษัทมีนิติสัมพันธ์ด้วย
    ข)   ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากบุคคลที่มีความเกี่ยวเนื่องกับท่าน (เช่น ครอบครัวของท่าน เพื่อน ผู้แนะนำ)
    ค)   ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากลูกค้าองค์กรธุรกิจ ในฐานะที่ท่านเป็นกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทน
    ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือผู้ติดต่อ
    ง)   ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากหน่วยงานราชการ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท
    สถาบันการเงิน บริษัทข้อมูลเครดิต และ/หรือ ผู้ให้บริการภายนอก (เช่น ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ข้อมูลเกี่ยวกับการทำ
    ธุรกรรม ข้อมูลเครดิต) และ/หรือ
    จ)   ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากบริษัทประกัน และ/หรือ บุคคลอื่นใด ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับกรมธรรม์ประกันภัยหรือ
    การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน

    ในกรณีที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัท ธนาคาร หรือลูกค้าของบริษัทในการทำธุรกรรมกับ
    บริษัท ธนาคาร หรือลูกค้าของบริษัท หรือในกรณีอื่นใด ท่านจะต้องแจ้งให้บุคคลดังกล่าวทราบถึงรายละเอียดการ
    เก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิตามประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ด้วย
    รวมทั้งท่านจะต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าว (หากจำเป็น) หรืออาศัยฐานทางกฎหมายอื่นในการให้
    ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท ธนาคาร หรือลูกค้าของบริษัท (แล้วแต่กรณี)

4. สิทธิตามกฎหมายของท่าน
    พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มาก
    ขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิของท่านตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ตามช่องทาง
    ที่บริษัทกำหนด
    4.1 สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    ท่านมีสิทธิเข้าถึงและได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทมีอยู่ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธ
    คำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความ
    เสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
    4.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    ท่านมีสิทธิขอให้บริษัททำการแก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน
    4.3 สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุ
    ตัวตนของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทจะมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน
    4.4 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี (เช่น บริษัทอยู่ระหว่างการ
    ตรวจสอบคำขอใช้สิทธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
    ของท่าน หรือท่านขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มี
    ความจำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้
    ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ
    การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย)
    4.5 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทดำเนินการ
    ภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรงหรือ
    การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของ
    ท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น บริษัทสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล
    ส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
    การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท)
    4.6 สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทสามารถทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถ
    อ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผย
    ข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไป
    ยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัท
    ไม่สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือบริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
    4.7 สิทธิในการขอถอนความยินยอม
    ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทเมื่อใดก็ได้ ตามขั้นตอนและวิธีการที่บริษัทกำหนด
    เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอมได้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบ
    ต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบก่อน
    การถอนความยินยอมดังกล่าว
    ท่านสามารถตรวจสอบและเปลี่ยนแปลงการให้ความยินยอมในการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
    เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดได้ผ่านช่องทางการใช้สิทธิตามที่ระบุในข้อ 10. ด้านล่าง หรือช่องทางอื่นที่
    บริษัทกำหนด
    4.8 สิทธิในการร้องเรียน
    ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูล
    ส่วนบุคคล หากบริษัทกระทำการอันเป็นการไม่ปฏิบัติตามพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือองค์กรดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ของพรบ.คุ้มครอง
    ข้อมูลส่วนบุคคล
    ก)   บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเอสซีบี เอกซ์ พันธมิตรทางธุรกิจ และ/หรือ บุคคลอื่นใดที่บริษัทมีนิติสัมพันธ์ด้วย
    รวมถึงกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัท และ/หรือ ของบุคคล
    ดังกล่าว
    ข)   หน่วยงานของรัฐ และ/หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท (เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวง
    ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสรรพากร กรมการ
    ปกครอง)
    ค)   คู่ค้า ตัวแทน หรือองค์กรอื่น (เช่น สมาคมวิชาชีพที่บริษัทเป็นสมาชิก ผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระ ศูนย์รับฝาก
    หลักทรัพย์ คลังเก็บเอกสาร สถาบันการเงินต่างประเทศ และสำนักหักบัญชี ซึ่งการเปิดเผยข้อมูล
    ส่วนบุคคลของท่านจะมีวัตถุประสงค์โดยเฉพาะเจาะจง ภายใต้ฐานทางกฎหมาย และมาตรการความ
    ปลอดภัยที่เหมาะสม)
    ง)   บุคคลที่เกี่ยวข้องในกรณีการขายสิทธิเรียกร้อง และ/หรือ ทรัพย์สิน การปรับโครงสร้างองค์กร หรือการควบ
    รวมกิจการของบริษัท ซึ่งบริษัทอาจต้องมีการโอนสิทธิไปยังกิจการดังกล่าว รวมถึงบุคคลต่าง ๆ ที่บริษัท
    จำเป็นต้องแบ่งปันข้อมูลเพื่อการขายสิทธิเรียกร้องและ/หรือทรัพย์สิน การปรับโครงสร้างองค์กร การโอน
    กิจการ ข้อตกลงทางการเงิน การจำหน่ายทรัพย์สิน หรือธุรกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับกิจการ และ/หรือ
    ทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินกิจการของบริษัท
    จ)   ตัวแทนทวงถามหนี้ ทนายความ สำนักงานกฎหมาย บริษัทข้อมูลเครดิต หน่วยงานป้องกันการทุจริต ศาล
    หน่วยงาน หรือบุคคลใด ๆ ที่บริษัทถูกกำหนดหรือได้รับอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย
    กฎระเบียบ หรือคำสั่ง
    ฉ)   บุคคลภายนอกที่ให้บริการต่าง ๆ แก่บริษัท (เช่น ผู้ให้บริการด้าน IT service ผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์
    และการเปรียบเทียบทางการตลาด ผู้ให้บริการ cloud computing ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงตัวแทน
    ธนาคารต่างประเทศ (correspondent banking) ตัวแทน หรือผู้รับเหมาช่วงที่กระทำการแทนบริษัท)
    ช)   ผู้ให้หลักประกันที่เป็นบุคคลภายนอก
    ซ)   บุคคลอื่นใดที่ให้สิทธิประโยชน์หรือให้บริการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทแก่ท่าน
    และ/หรือ
    ฌ)   ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วง ตัวแทน หรือผู้แทนโดยชอบธรรมของท่านที่มีอำนาจตามกฎหมาย
    โดยชอบ

6. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
    เนื่องจากกิจการบริษัทในปัจจุบันเป็นธุรกิจที่ครอบคลุมทั่วโลก ในบางครั้งบริษัทจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูล
    ส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ (เช่น การส่งข้อมูลให้บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเอสซีบี เอกซ์ การส่งข้อมูลไป
    จัดเก็บที่ cloud server ในต่างประเทศเพื่อการให้บริการ) ในกรณีนี้บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการ
    ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ หรือผู้รับข้อมูลของบริษัทที่มีความ
    น่าเชื่อถือด้วยวิธีการที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    ในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงพอ บริษัทจะดำเนินการส่งหรือโอน
    ข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครอง
    ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่จำเป็นและเหมาะสม

7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
    บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้าของบริษัทและเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์
    กับบริษัท (เช่น หลังจากที่ท่านชำระหนี้ ดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และหนี้อื่น ๆ ที่มีอยู่กับธนาคาร หรือบริษัทในเครือ
    ของธนาคาร ซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทครบถ้วนถูกต้อง หรือหลังจากที่การทำธุรกรรมกับบริษัทสิ้นสุดลง) บริษัทจะ
    เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่เหมาะสมและจำเป็นสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทและ
    วัตถุประสงค์ตามที่พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

    บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามอายุความ หรือระยะเวลาที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (เช่น
    กฎหมายธุรกิจสถาบันการเงิน กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายการป้องกันและปราบปราม
    การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง กฎหมายการบัญชี
    กฎหมายภาษีอากร กฎหมายแรงงาน และกฎหมายอื่นที่บริษัทต้องปฏิบัติตาม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ)
    นอกจากนี้บริษัทอาจจะจำเป็นต้องเก็บบันทึกข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่สำนักงานของบริษัท และ/หรือ
    การบันทึกเสียงการให้บริการผ่าน Call Center เพื่อป้องกันเหตุทุจริตและการรักษาความปลอดภัย รวมถึง
    ตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัยที่ท่านหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องอาจแจ้งมายังบริษัท

8. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม
    บริษัทมีสิทธิในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ พรบ. คุ้มครอง
    ข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับต่อไป
    ตามวัตถุประสงค์เดิม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทเก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป
    ท่านสามารถแจ้งบริษัทเพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้

9. การรักษาความปลอดภัย
    บริษัทมีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยภายในบริษัทและการใช้บังคับนโยบายอย่างเข้มงวดในการเก็บรักษา
    ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการเข้ารหัสข้อมูล และมาตรการป้องกันการเข้าถึงข้อมูล
    โดยบริษัทกำหนดให้บุคลากรของบริษัทและผู้รับจ้างภายนอกจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานและนโยบายความเป็น
    ส่วนบุคคลที่เหมาะสม รวมถึงจะต้องจัดให้มีการดูแลรักษาข้อมูลและมีมาตรการที่เหมาะสมในการใช้หรือการส่ง
    หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

10. วิธีการติดต่อบริษัท
    หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของ
    บริษัท โปรดติดต่อบริษัทตามช่องทางดังต่อไปนี้

    • บริษัท ไทยพาณิชย์พลัส จำกัด
     สำนักงานใหญ่ของบริษัทตั้งอยู่ที่ อาคารจี ทาวเวอร์ แกรนด์ พระราม 9 ชั้น 12,14 เลขที่ 9 ถนนพระราม 9
     แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
    • เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อีเมล scbp-dpo@scb.co.th หรือตามที่อยู่ของบริษัทข้างต้น

    หากท่านต้องการขอใช้สิทธิตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อบริษัทตามที่อยู่ของบริษัทข้างต้นหรือ
    Call Center โทร. 02 792 3999

11. การเปลี่ยนแปลงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว
    บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว โดยบริษัทจะแจ้ง
    ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับปัจจุบันโดยการปิดประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับปัจจุบันไว้ที่
    สำนักงานของบริษัท หรือผ่านทางรายละเอียดการติดต่อที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัท

ฉบับเดือนเมษายน 2565